ชื่ออื่น : กระถินพิมาน(ภาคกลาง), คะยา, หนามขาว(ภาคเหนือ) กระถินป่า, แฉลบขาว, แฉลบ, วิมานแดง, กระถินวิมาน(สุโขทัย), กระถินแดง, กระถินขาว
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Acacia tomentosa Willd.
ชื่อวงศ์ : LEGUMINOSAE–MIMOSOIDEAE
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
- ต้นกระถินพิมาน เป็นไม้ต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ผลัดใบ สูง 5-15 มิลลิเมตร พุ่มเรือนยอดโปร่งแผ่กว้างคล้ายรูปร่ม กิ่งอ่อนมีขนหนาแน่น ตามกิ่งมีหูใบแปลงรูปเป็นหนามแหลมแข็ง ยาวได้ถึง 4.5 เซนติเมตร
- ใบกระถินพิมาน ใบประกอบแบบขนนกสองชั้น เรียงสลับ แกนกลางใบประกอบยาว 3-9 เซนติเมตร ก้านใบประกอบยาว 0.6-1 เซนติเมตร มีต่อมขนาดใหญ่ที่ปลายก้านใบประกอบตรงรอยต่อระหว่างแขนงคู่ล่างสุด ใบประกอบแยกแขนง 7-23 คู่ ยาว 0.9-2.5 เซนติเมตร แต่ละแขนงมีใบย่อย 20-50 คู่ เรียงตรงข้ามชิดกัน ใบย่อยรูปขอบขนาน กว้างประมาณ 1 มิลลิเมตร ยาว 2-3 มิลลิเมตร ปลายมน โคนเบี้ยว แผ่นใบมีขนทั้ง 2 ด้าน ไม่มีก้านใบย่อย
- ดอกกระถินพิมาน ช่อดอกแบบช่อกระจุกแน่น ออกเดี่ยวๆ ตามง่ามใบ 1-4 ช่อ กลิ่นหอมอ่อน ก้านช่อดอกยาว 1-2.5 เซนติเมตร มีขน ดอกเล็ก สีขาว มีจำนวนมาก ออกชิดกันแน่นบนแกนช่อกลมคล้ายช่อดอกกระถิน เมื่อบานเต็มที่เส้นผ่านศูนย์กลางช่อดอก 0.9-1.3 เซนติเมตร กลีบเลี้ยงและกลีบดอก 4-5 กลีบ เล็กมาก ติดกันเป็นหลอดสั้นๆ เกสรเพศผู้มีจำนวนมาก
- ฝักกระถินพิมาน ฝักแบนแคบรูปขอบขนาน กว้าง 0.8-1.1 เซนติเมตร ยาว 9-12 เซนติเมตร ฝักแก่สีน้ำตาล โค้งงอ มีหลายเมล็ด เมล็ดรูปไข่ กว้าง 5-6 มิลลิเมตร ยาว 7-9 มิลลิเมตร
ส่วนที่ใช้เป็นยา : ราก
สรรพคุณ กระถินพิมาน :
- ราก มีรสฝาดเฝื่อน แก้พิษสัตว์กัดต่อย แก้พิษงู (นำรากที่ชอนทางทิศตะวันออกมาฝนกับเหล้า กินและทาเพื่อถอนพิษงู)
ข้อมูลเพิ่มเติม :
- เห็ด ที่เกิดจากไม้กระถินพิมาน เรียกว่า เห็ดกระถินพิมาน จะมีรสเมาเบื่อ แก้ไข้พิษ ไข้กาฬ ใช้ฝนกับน้ำ้ปูนใส หรือเหล้า หยอดหู แก้ปวดแก้พิษฝีในหูทาบาดแผลเน่าเปื่อย น้ำ้เหลืองเสีย แก้เริม งูสวัด
เห็ดกระถินพิมานกับการวิจัยฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
- เห็ดกระถินพิมานมีฤทธิ์ในการต้านมะเร็ง โดยลดการเพิ่มจำนวน และกระตุ้นให้เกิดการตายของเซลล์มะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่ เซลล์มะเร็งเยื่อบุโพรงจมูก เซลล์มะเร็งเต้านม เซลล์มะเร็งสมอง และเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาว โดยมีกลไกในการเพิ่มอัตราการแพร่กระจายของเม็ดเลือดขาวชนิด บี ลิมโฟไซต์ อีกทั้งเห็ดกระถินพิมานยังมีการออกฤทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับกลไกการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยต่อต้านริ้วรอยโดยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ ต้านเชื้อจุลชีพ และเชื้อไวรัส ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดการอักเสบของต่อมลูกหมาก รวมถึงมีฤทธิ์ในการปกป้องตับ และระบบประสาท
ขอบคุณภาพจาก : Plants , จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย