ชื่อสมุนไพร : คาง
ชื่ออื่นๆ : กาง, ก๋าง, ข่าง, คาง, คางแดง, จามจุรีดง, จามจุรีป่า
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Albizia lebbeckoides (DC.) Benth
ชื่อวงศ์ : FABACEAE–MIMOSOIDEAE
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
- ต้นคาง เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 15-25 เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มทึบ สีเขียวเข้ม เปลือกสีเทาอมเหลืองถึงสีน้ำตาลอ่อน มีรอยย่นเป็นริ้วตามแนวนอนเป็นจำนวนมาก ไม่เป็นระเบียบเกือบจะรอบลำต้นกิ่งอ่อนมีสีน้ำตาลเหลืองทั่วไป แก่แล้วจะร่วงหลุดหมดไป
- ใบคาง เป็นใบประกอบแบบขนนกสองชั้นปลายคู่ ออกเรียงสลับแบบตรงข้าม ยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร มีใบย่อยประมาณ 10-25 คู่ แผ่นใบเรียบบาง ใบย่อยมีขนาดเล็ก ลักษณะของใบย่อยเป็นรูปขอบขนานหรือรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ปลายใบมนหรือสอบ โคนใบเบี้ยว ส่วนขอบใบเรียบ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 0.6-1.5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 1-3.5 เซนติเมตร ผิวใบทั้งสองด้านเกลี้ยง
- ดอกคาง ออกดอกเป็นช่อแบบช่อกระจุกแน่นที่ปลายยอด ยาวประมาณ 10-20 เซนติเมตร ช่อดอกย่อยประกอบด้วยดอกย่อยหลายดอกรวมกันเป็นกลุ่ม ดอกมีขนาดเล็กเป็นสีขาวนวล กลีบเลี้ยงขนาดเล็ก โคนเชื่อมติดกันเป็นหลอด มีขน ปลายแยกออกเป็น 6 แฉก ส่วนกลีบดอกเป็นรูปกรวย ผิวมีขน ยาวประมาณ 6.5-9 มิลลิเมตร ปลายแยกเป็นแฉก ดอกมีเกสรเพศผู้เป็นเส้นสีขาวจำนวนมาก ยาวเท่าหลอดกลีบดอก โคนก้านเกสรเพศผู้เชื่อมกันเป็นหลอด
- ผลคาง ผลเป็นฝักแห้งแตกแบน สีน้ำตาลเข้มผิวเกลี้ยง เมล็ดนูนเรียงตามขวางหลายเมล็ด
ส่วนที่ใช้เป็นยา : ใบ, ดอก, เปลือกต้น
สรรพคุณ คาง :
- ใบ รสเฝื่อน แก้ไอ
- ดอก รสหวาน บำรุงธาตุ บำรุงกำลัง แก้ปวดบาดแผล แก้ฟกบวม แก้คุดทะราด แก้ตาอักเสบ แก้พิษงู แก้พิษต่างๆ แก้ลงท้อง รักษาคุดทะราด และรักษาอาการไข้ที่เกิดจากพิษอักเสบตา เป็นยาแก้ฝี
- เปลือก รสฝาดเฝื่อน แก้ลงท้อง แก้ตกเลือด แก้บวม แก้ฝี แก้แผลเน่าเปื่อย บวม รักษาลำไส้พิการ แผลโรคเรื้อน เป็นยาอายุวัฒนะและบำรุงหนังเส้นเอ็นให้บริบูรณ์ เป็นยาลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดความดันโลหิต เป็นยาแก้ไอ ยาแก้โรคพยาธิ