ชื่อสมุนไพร : จันทน์กะพ้อ
ชื่ออื่นๆ : เขี้ยวงูเขา, จันทน์พ้อ, จันพอ
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Vatica diospyroides Symington.
ชื่อวงศ์ : DIPTEROCARPACEAE
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
- ต้นจันทน์กะพ้อ เป็นไม้ต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สูง 5-15 เมตร ไม่ผลัดใบ เรือนยอดเป็นพุ่มกลมรูปไข่หรือแผ่กว้าง ทรงพุ่มค่อนข้างทึบ ลำต้นตรง แตกกิ่งต่ำ กิ่งอ่อนและใบอ่อนมีขนสีน้ำตาลแดง ดอกมีกลิ่นหอมแรง เจริญเติบโตช้า เป็นพันธุ์ไม้ที่ไม่ชอบแสงแดดจัดและแห้งแล้ง เปลือกเรียบหรือแตกเป็นร่องเล็ก ๆ และแตกสะเก็ดสีน้ำตาลอมเทา หรือสีเทาคล้ำ
- ใบจันทน์กะพ้อ ใบเดี่ยว ออกเวียนเรียงสลับ รูปใบหอก หรือรูปขอบขนาน กว้าง 5-8 เซนติเมตร ยาว 15-30 เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลม โคนใบสอบแคบ ขอบใบเรียบเป็นคลื่นเล็กน้อย แผ่นใบเป็นคลื่นสีเขียวเข้มค่อนข้างหนา ก้านใบคดงอ ยาว 1.5-2.0 เซนติเมตร
- ดอกจันทน์กะพ้อ สีเหลืองอ่อนหรือเหลืองนวล ขนาดเล็ก กลิ่นหอมแรง ออกเป็นช่อแบบช่อกระจะตามซอกใบบริเวณกิ่งและปลายกิ่ง กลีบเลี้ยงเชื่อมติดกันเป็นรูปถ้วย มีขนสีน้ำตาลปกคลุม ปลายแยกออกเป็น 5 แฉก กลีบดอกมี 5 กลีบ เวียนเรียงกันเป็นรูปกังหัน กว้าง 0.3-0.4 เซนติเมตร ยาว 1-2 เซนติเมตร ดอกบานเต็มที่กว้าง 2.0-2.5 เซนติเมตร
- ผลจันทน์กะพ้อ ผลแห้งรูปทรงกลมปลายเรียวแหลมคล้ายรูปสามเหลี่ยม มีขนสีน้ำตาลปกคลุม เปลือกแข็ง ผลแก่แตกอ้าออกเป็น 3 เสี่ยง ภายในผลมี 1 เมล็ด เมล็ด รูปทรงคล้าย ๆ ผล ทรงกลมปลายแหลม ขนาดเล็ก เปลือกแข็ง
ส่วนที่ใช้เป็นยา : เนื้อไม้, ดอก
สรรพคุณ จันทน์กะพ้อ :
- เนื้อไม้ รสร้อนหอม แก้ไข้เพื่อลม แก้สันนิบาต แก้เสมหะและโลหิต ขับลม แก้ลมวิงเวียน
- ดอก ใช้ผสมกับยาอื่นปรุงเป็นยาหอมแก้ลม บำรุงหัวใจ