ชื่อสมุนไพร : นมตำเลีย
ชื่ออื่นๆ : สังวาลพระอินทร์, ต้าง, เนื้อมะตอม(ภาคเหนือ), นมตำเรีย, นมมาเลีย(ภาคกลาง)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Hoya parasitica (Roxb.) Wall. ex Wight
วงศ์ : ASCLEPIADACEAE
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
- ต้นนมตำเลีย เป็นพรรณไม้เลื้อยอิงอาศัยขนาดเล็กถึงขนาดกลางที่ลำต้นต้องอาศัยเกาะกับต้นไม้ใหญ่อื่นๆ มีรากตามข้อลำต้น ทุกส่วนของต้นมีน้ำยางสีขาว ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด ตอน หรือปักชำ ชอบที่ร่ม มีความชื้นและแสงแดดพอประมาณ
- ใบนมตำเลีย เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้ามเป็นคู่ๆ ไปตามข้อต้น ลักษณะของใบเป็นรูปไข่ถึงรูปรี แผ่นใบหนา อวบน้ำ และเป็นมัน ปลายใบแหลม โคนใบมนหรือบางทีเว้าเป็นรูปหัวใจ ส่วนขอบใบเรียบ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 4-10 เซนติเมตร และยาวประมาณ 5-12 เซนติเมตร แผ่นใบเป็นสีเขียวเข้มหรือสีเขียวอมแดง ผิวใบเกลี้ยงทั้งสองด้าน ก้านใบใหญ่ยาวประมาณ 0.6-1.2 เซนติเมตร
- ดอกนมตำเลีย ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบ ช่อดอกค่อนข้างกลมคล้ายซี่ร่ม ก้านช่อดอกยาวประมาณ 1-2 นิ้ว ดอกย่อยมีขนาดเล็ก ประมาณ 0.6-0.8 เซนติเมตร กลีบดอกมี 5 กลีบ อวบมันคล้ายทำด้วยเทียนหรือขี้ผึ้ง แต่ละพันธุ์จะมีลักษณะของดอกและสีของกลีบดอกแตกต่างกันออกไป เช่น พันธุ์กลีบดอกเป็นสีชมพู สีแดง สีขาว สีเหลือง
- ผลนมตำเลีย ออกผลเป็นฝักยาว และมีขนขึ้นปกคลุมทั่วฝัก ฝักมีขนาดกว้างประมาณ 0.5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 14-15 เซนติเมตร ภายในมีเมล็ดขนาดเล็ก แบน รูปไข่ มีขนเป็นพู่ที่ปลาย
ส่วนที่ใช้เป็นยา : ยางจากต้น
สรรพคุณ นมตำเลีย :
- ยางจากต้น นำมาปรุงเป็นยาขับปัสสาวะ
พบขึ้นกระนาขพันธุ์ในอินเดีย ศรีลังกา พม่า ในประเทศไทยพบได้ทุกภาคของประเทศ ตามป่าเต็งรังและป่าเบญจพรรณทั่วไป
ประโยชน์ของนมตำเลีย
- นิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับทั่วไป รูปทรงของต้น ใบ และดอก ดูกะทัดรัดและงดงาม นมตำเลียเป็นพรรณไม้ขนาดเล็กเหมาะสำหรับปลูกใส่ในกระถางแขวนแล้วปล่อยให้เลื้อยห้อยระย้าลงมาดูสวยงาม หรือจะปลูกให้เลื้อยเกาะขึ้นกับต้นไม้อื่นหรือขอบไม้ก็ได้ ส่วนการเพาะปลูกก็ทำได้ไม่ยากนัก แต่ควรปลูกในที่ร่มรำไร ต้องการน้ำและความชื้นสูง การให้น้ำควรให้โดยการใช้สเปรย์ฉีดพ่นเป็นฝอย ๆ ส่วนดินที่ใช้ปลูกควรเป็นดินร่วนหรือดินร่วนที่มีส่วนผสมของขี้เถ้าแกลบ เพื่อให้มีการระบายน้ำได้ดี