มะปริง

มะปริง

ชื่อสมุนไพร : มะปริง
ชื่ออื่นๆ :
โด้ง, ตง, ปริง, ส้มปริง
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Bouea microphylla Griff.
ชื่อวงศ์ : ANACEARDIACEAE

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :

  • ต้นมะปริง เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางสูง 8-20 เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มกลมกว้างๆ หรือบางครั้งเป็นรูปกรวย เปลือกเรียบสีเทาปนดำ มีน้ำยางสีเหลืองซึม
    มะปริง
  • ใบมะปริง ใบเดี่ยวออกตรงข้ามกันเป็นคู่ๆ และแต่ละคู่สลับทิศทางกัน ใบอ่อนสีม่วงห้อยย้อยลง รูปขอบขนานหรือรูปหอก กว้าง 2-6 ซม. ยาว 10-20 ซม. โคนใบมนหรือสอบเข้าเล็กน้อย ปลายใบเรียวและเป็นติ่งทู่ๆ เนื้อใบหนาเกลี้ยงเป็นมัน เส้นแขนงใบโค้งขนานกันมี 16-18 คู่ ขอบใบเรียบหรือเป็นคลื่นบ้าง ใบแก่มักมีคราบขาวๆ ก้านใบยาว 1-2 ซม.
  • ดอกมะปริง ดอกสีเหลืองอ่อนหรือปนเขียวอ่อน ออกเป็นช่อตามง่ามใบปละปลายกิ่ง มีทั้งดอกแยกเพศและสมบูรณ์เพศ ดอกเพศผู้มีจำนวนมากและขนาดเล็กกว่าดอกสมบูรณ์เพศ กลีบดอกและกลีบรองกลีบดอกมีอย่างละ 4-5 กลีบ โคนกลีบรองกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นรูปถ้วย เกสรตัวผู้มี 4-5 อัน ก้านอับเรณูสั้นมาก รังไข่ในดอกเพศผู้ไม่มี ส่วนในดอกสมบูรณ์เพศรังไข่เบี้ยว หลอดท่อรังไข่สั้นมาก ปลายแยกเป็น 3 แฉก
  • ผลมะปริง ลักษณะกลมรีๆ ผิวผลบางมีเนื้อเยื่อหุ้ม ผลแก่สีเหลืองมีรสเปรี้ยวหรือหวาน เมล็ดแข้งมีเสี้ยนมาก เมล็ดในสีม่วง

ส่วนที่ใช้เป็นยา : ราก, ผล

สรรพคุณ มะปริง :

  • ราก รสจืดเย็น ถอนพิษ ผิดสำแดง แก้ไข้กลับ ไข้ซ้ำ แก้ไข้ตัวร้อน
  • ผล รสเปรี้ยว แก้เสมหะ กัดเสมหะในคอ แก้เสลดหางวัว แก้น้ำลายเหนียว ฟอกโลหิต

 

ใบอ่อนหรือยอดรับประทานเป็นผักจิ้มน้ำพริก มะปริงดิบใช้ปรุงรสเปรี้ยวในอาหารแทนมะนาว ในน้ำพริก ยำ และนำไปแกงได้ อาจจะนำไปดองในน้ำเกลือเพื่อเก็บไว้รับประทานได้นานขึ้น ผลสุกกินเป็นผลไม้สุกแล้วมีวิตามินเอสูง หรือใช้ทำของหวาน เช่น ไส้พาย ลอยแก้ว น้ำผลไม้

Scroll to top