ชื่ออื่น : มะลิลา
ชื่ออื่น : มะลิ (ทั่วไป), มะลิซ้อน(ภาคกลาง), มะลิขี้ไก่(เชียงใหม่), มะลิหลวง(แม่ฮ่องสอน), มะลิป้อม(ภาคเหนือ), ข้าวแตก(เงี้ยว-แม่ฮ่องสอน), เตียมูน(ละว้า-เชียงใหม่)
ชื่อสามัญ : Arabian Jasmine, Jusmine, Kampopot
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Jasminum Sambac (L.) Aiton
ชื่อวงศ์ : OLEACEAE
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
- ต้นมะลิลา เป็นไม้พุ่ม บางพันธุ์เป็นไม้รอเลื้อย สูง 0.3-3 เมตร
- ใบมะลิลา ใบเรียงตรงข้าม ใบประกอบแบบขนนก มีใบย่อยใบเดียว รูปไข่ รีหรือรีขอบขนาน กว้าง 3-5 ซม. ยาว 6-10 เซนติเมตร โคนใบมนหรือสอบ ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ผิวใบเรียบเป็นมัน ด้านท้องใบเห็นเส้นใบชัดเจน เส้นใบขนาดใหญ่มี 4-6 คู่ ก้านใบสั้นมากและมีขน
- ดอกมะลิลา ดอกเป็นช่อเล็ก ๆ มีทั้งดอกลาและดอกซ้อน ดอกสีขาว โคนดอกติดกันเป็นหลอด สีเขียวอมเหลือง ดอกกลางบานก่อน กลีบเลี้ยงแยกเป็นส่วน 7-10 ส่วน มีขนละเอียด ยาว 2 1/2-7 เซนติเมตร โคนกลีบดอกเชื่อมเป็นหลอด ยาว 7-15 มิลลิเมตร ส่วนปลายแยกเป็นส่วนรูปไข่ แกมรี สีขาว อาจมีสีม่วงด้านนอกหรือเมื่อดอกร่วงยาว 8-15 มิลลิเมตร ดอกอาจซ้อนหรือลา
- ผลมะลิลา ผลสด (berry) สีดำ
ส่วนที่ใช้เป็นยา : ใบ, ราก, ดอกแก่
สรรพคุณ มะลิลา :
- ใบ, ราก ทำยาหยอดตา
- ดอกแก่ เข้ายาหอม แก้หืด บำรุงหัวใจ
- ราก ฝนรับประทาน แก้ร้อนใน, เสียดท้อง รักษาหลอดลมอักเสบ ขับประจำเดือน
- ใบ ตำให้ละเอียด ผสมกับน้ำมะพร้าวใหม่ๆ นำไปลนไฟ ทารักษาแผล ฝีพุพอง แก้ไข้ ขับน้ำนม