เภสัชกรรม คือ รู้จักการปรุงยา วิธีปรุงยา ผสมเครื่องยาหรือตัวยาตามที่กำหนดในตำรับยา หรือตามใบสั่งยา
วิธีปรุงยา
การปรุงยาตามตำราแพทย์แผนโบราณ คงจะเข้าใจดีว่า การปรุงยา ก็หมายถึง การผสม การผสมนี้ก็ต้องใช้วัตถุต่างๆตามความต้องการของแพทย์และเภสัชกรเพื่อนำเอามาแปรสภาพให้เป็นยารักษาและป้องกันโรคที่เกิดขึ้น ให้มีสรรพคุณแรงพอที่จะบำบัดโรคได้ เภสัชกรก็คือเป็นผู้ที่รอบรู้มนวิชาเภสัชกรรมได้ดี รู้ซึ้งถึงวัตถุต่างๆว่ามีรูปร่างลักษณะมีฤทธิ์ที่จะแก้โรคได้อย่างไรและเป็น ผู้แปรสภาพวัตถุต่างๆ ให้กลายเป็นยารักษาโรคได้
การปรุงยา เภสัชกรต้องมึความเข้าใจต่อตัวยา การประสมประสานตัวยานั้น มีความหมายอย่างไร หรือตัวยาจะมีความสัมพันธ์กัน หรือมีฤทธิ์ต่อต้านกัน หรือจะเสริมฤทธิ์ ทำให้มีอาการข้างเคียงเกิดขึ้นในเมื่อใช้ต่อผู้ป่วย หรือไม่มีฤทธิ์พอจะทำลายโรคได้
ตัวยา หรือวัตถุต่างๆ ย่อมมีสรรพคุณปรากฏอยู่ในตัวแล้วก็ตาม แต่หากจะนำมาใช้ทำยา ตัวยาสิ่งเดียวย่อมไม่มีสรรพคุณแรงพอที่จะใช้รักษาโรคได้ เพราะมีกากเจือปนมาก ทั้งยังไม่เรียกว่าเป็นยา คงเป็นวัตถุสิ่งหนึ่ง เป็นเครื่องประกอบยา เรียกว่าเครื่องยา หรือตัวยาเท่านั้น ท่านคณาจารย์แพทย์ทั้งหลายเป็นผู้ชำนาญการ จึงได้รวบรวมตัวยาหลายสิ่งหลายอย่างนับตั้งแต่สองสิ่งขึ้นไป ผสมรวมกันเข้าจึงเรียกว่า ปรุง ผลผลิตจากการปรุง จึงได้ชื่อว่ายาสำหรับบำบัดและรักษาโรคที่เกิดขึ้นได้ สมมุติว่าท่านจะเอากระเพรา (ตัวยา) แต่อย่างเดียวมาต้มกับน้ำหรือละลายน้ำ ก็ไม่เรียกว่ายา ถ้าจะให้เรียกใกล้เคียงก็แค่น้ำกระสายยาเท่านั้น หรือมิฉะนั้นก็กลายเป็นอาหารไป ยาไทยนั้นปรุงขึ้นจากพืช สัตว์ และธาตุ ที่เกิดขึ้นจากพื้นภูมิประเทศอันเกิดขึ้นอยู่ตามธรรมชาติของมัน เมื่อยังมิได้ทำการสกัดกลั่น เอาแต่ตัวยาจริงๆ มาปรุงผสมเป็นยา ก็ย่อมมีกากและสิ่งที่ไม่ใช่ตัวยาปะปนอยู่มาก จึงกำหนดให้ใช้ตัวยารวมกันหลายสิ่ง ผสมกันเข้าเป็นยา