ชื่อสมุนไพร : ลางสาด
ชื่ออื่นๆ : รังสาด ลังสาด รางสาด ลางสาด (ไทย), ลาซะ ดูกู (มลายู)
ชื่อสามัญ : Langsat , Lancet , Langsium
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Lonsium domesticum Corr.
ชื่อวงศ์ : Meliaceae
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
- ต้นลางสาด เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก มีลำต้นตรง สูงประมาณ 5-10 เมตร แตกกิ่งก้านเป็นมุมแหลมกระจายกึ่งกลางลำต้นขึ้นไป ลักษณะปลายกิ่งตั้ง ส่วนผิวของลำต้นชั้นนอกมีสีเทาและขรุขระ เปลือกไม่หลุดออก
- ใบลางสาด ใบเป็นใบประกอบ เกิดสลับซ้ายขวาอยู่ต่างระนาบกัน ก้านใบกลม ลักษณะใบเป็นรูปไข่รีโค้งมน ปลายใบเรียวแหลม ขอบใบเรียบ ที่ผิวใบมีไขนวลปกคลุมอยู่ ใบมีสีเขียวเข้ม ด้านล่างใบมีเส้นใบนูนเด่น
- ดอกลางสาด ดอกออกเป็นช่อตามกิ่งและลำต้น ออกเป็นช่อเดี่ยวหรือเป็นกลุ่ม ดอกมีสีเหลืองนวล มีทั้งเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียอยู่ในดอกเดียวกัน กลีบเลี้ยงและกลีบดอกมีลักษณะอวบ และจะติดอยู่จนกระทั่งเป็นผล
- ผลลางสาด ออกผลเป็นช่อ ๆ ผลสดมีสีเขียว เมื่อสุกจะเป็นสีเหลือง ผลมีลักษณะกลมรี เปลือกค่อนข้างบาง ผิวละเอียด ผลอ่อนนุ่ม มียางมากเป็นสีขาวขุ่น ๆ ส่วนเนื้อในนิ่ม ฉ่ำน้ำ มีรสหวานหอมอมเปรี้ยวเล็กน้อย ในผลมีเมล็ดมาก ประมาณ 5 เมล็ด และเมล็ดมีสีน้ำตาล ลักษณะกลมแบนรี มีเปลือกหุ้มบาง ๆ ผิวเมล็ดเรียบ มีเนื้อในสีขาว มีรสฝาดและขมจัด
ส่วนที่ใช้เป็นยา : เปลือกผล, เมล็ด, เปลือกต้น
สรรพคุณ ลางสาด :
- เปลือกผล รสฝาด ต้มดื่มแก้ท้องร่วง เผาไฟไล่ยุง เปลือกผลมีสารโอเลอเรซิน ซึ่งช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง
- เมล็ด รสขม ต้มดื่มแก้ไข้ ขับพยาธิ ใช้เมล็ดสีเขียว นำมาฝนกับน้ำจนเป็นครีมข้นสีเขียว ใช้หยอดหูแก้อาการช่องหูอักเสบ หรือแก้โรคหูน้ำหนวก ช่วยสมานแผลในช่องหู
- เปลือกต้น รสฝาด ต้มดื่มแก้โรคกระเพาะ
ในลางสาดอุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมันที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโต แคลเซียม ฟอสฟอรัส ที่ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ธาตุเหล็กที่ช่วยบำรุงหัวใจและบำรุงระบบโลหิต ป้องกันโรคโลหิตจาง