ทับทิม มีถิ่นกำเนิดจากตะวันออกของประเทศอิหร่าน ทางตอนใต้ของอัฟกานิสถานและทางตอนเหนือของเทือกเขาหิมาลัย ทับทิมจึงชอบอากาศหนาวเย็นและอยู่บนพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลอย่างน้อย 300 เมตร ยิ่งอากาศหนาวเนื้อทับทิมจะมีสีแดงเข้มมากขึ้น ทับทิมคงเป็นพืชที่ได้รับความนิยมมากว่าพันปีแล้ว จึงมีการปลูกแพร่กระจายออกไปทั้งในเขตร้อน (tropical) และกึ่งร้อน (Sub-tropical) ของทวีปเอเชีย ยุโรป รวมทั้งในทวีปแอฟริกาด้วย พันธุ์ทับทิมเก่าแก่ที่มีการปลูกทับทิมในประเทศไทยในระยะแรกนั้น คือ พันธุ์บางปลาสร้อย ที่มีแหล่งปลูกมากในแถบภาคใต้บริเวณอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดใกล้เคียง แล้วค่อยแพร่ไปสู่จังหวัดอื่นๆ
ทับทิม
ชื่ออื่น ๆ : มะเก๊าะ(ภาคเหนือ), มะก่องแก้ว พิลาขาว(น่าน), หมากจัง(เงี้ยว-แม่ฮ่องสอน), พิลา(หนองคาย), เจียะลิ้ว(จีน)
ชื่อสามัญ : Punic Apple, Pomegranate, Granades, Granats, Carthaginian Apple
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Punica granatum Linn.
ชื่อวงศ์ : PUNICACEAE
เนื้อใสหุ้มเมล็ดสีแดงหรือชมพูสดสวย ฉ่ำน้ำ รสหวานหรือหวานอมเปรี้ยวของทับทิมนั้นมีคุณค่ามากสมชื่อ เพราะเนื้อทับทิ่มมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ และช่วยบำรุงหัวใจ มีสารแอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นรงควัตถุในพืชผักผลไม้ที่มีคุณสมบัติที่ดีในการต้านอนุมูลอิสระและดีต่อเส้นเลือด ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ มีสารโพลีฟีนอลที่มีส่วนช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด จากการศึกษาวิจัยยืนยันว่าการดื่มน้ำทับทิมให้สารต้านอนุมูลอิสระมากเป็น 3 เท่าของการดื่มไวน์แดงและชาเขียวใรปริมาณที่เท่ากัน และน้ำทับทิม 1 แก้ว มีวิตามินซีร้อยละ 40 ของปริมาณที่ผู้ใหญ่ทั่วไปจำเป็นต้องได้รับในแต่ละวัน
หญิงและชายวัยทองก็ไม่ควรมองข้ามผลไม้ชนิดนี้ เพราะทับทิมมีสารไฟโตเอสโทรเจน (Phytoestrogen) ช่วยปรับฮอร์โมนและบรรเทาอาการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นเมื่อย่างเข้าวัยทอง เป็นแหล่งของวิตามินเอและอี จึงช่วยป้องกันและลดปัญหาเรื่องริ้วรอยที่เกิดจากวัย ส่วนสตรีมีครรภ์ก็จะได้รับประโยชน์จากกรดโฟลิก ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ อีกทั้งทับทิมยังมีโพแทสเซียมช่วยลดความดันโลหิตได้อีกด้วย
นอกจากให้ประโยชน์ภายในร่างกายแล้ว ทับทิมยังช่วยดูแลความสวยงามภายนอกด้วย หากใครอยากหน้าใสก็ให้ใช้สำลีชุบน้ำทับทิมทาผิวหน้าทิ้งไว้สัก 10 นาที ผิวจะสดชื่นเปล่งปลั่งขึ้นได้แบบไร้ผลข้างเคียงจากสารเคมี สำหรับการดูแลผม ชาวจีนจะใช้ทับทิมทั้งผลบดละเอียด คั้นน้ำมาชโลมเส้นผมให้ทั่ว ทำบ่อยๆ ผมจะค่อยๆ ดำขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยคุณค่าอันเต็มเปี่ยมนี้เอง ที่ทำให้น้ำทับทิมรวมถึงสารสกัดจากเนื้อและเมล็ดทับทิม ได้รับความสนใจและนิยมไปทั่วโลกในปัจจุบัน
ลักษณะของ ทับทิม :
- ต้นทับทิม เป็นพรรณไม้ยืนต้น หรือพรรณไม้พุ่มขนาดกลาง ลักษณะผิวเปลือกลำต้นเป็นสีเทา ส่วนที่เป็นกิ่งหรือยอดอ่อนจะเป็นเหลี่ยม หรือมีหนามแหลมยาวขึ้น
- ใบทับทิม มีลักษณะเป็นรูปยาวรี โคนใบมนแคบ ส่วนปลายใบเรียวแหลมสั้น ผิวหลังใบเกลี้ยงเป็นมัน ใต้ท้องใบจะเห็นเส้นใบได้ชัด ขนาดของใบกว้างประมาณ 1-1.8 ซม. ยาวประมาณ 2.5-6 ซม.
- ดอกทับทิม ออกเป็นช่อ หรืออาจจะเป็นดอกเดียว ในบริเวณปลายยอด หรือง่ามกิ่ง ลักษณะของดอกมีเป็น สีส้ม สีขาว หรือสีแดง ดอกหนึ่งมีกลีบดอกประมาณ 6 กลีบ ปลายกลีบดอกจะแยกออกจากกัน ตรงกลางดอกมีเกสรตัวเมีย และตัวผู้ซึ่งมีอับเรณูเป็นสีเหลือง ขนาดของดอกบานเต็มที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2-3 ซม.
- ผลทับทิม มีลักษณะเป็นรูปค่อนข้างกลม ผิวเปลือกนอกหนาเกลี้ยง ผลเมื่อแก่หรือสุกเต็มที่มีสีเหลืองปนแดง และลักษณะของผลจะแตก หรืออ้างออก ข้างในผลก็จะมีเมล็ดเป็นจำนวนมาก เป็นรูปเหลี่ยม มีสีชมพูสด