ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการนวดแผนไทยเพื่อบรรเทาอาการและรักษาโรค

ทฤษฎีที่สำคัญในการนวดแผนไทย

กายของคนเรายาวไม่เกิน 1 วา (2 เมตร) หนาประมาณไม่เกิน 1 คืบ (12 นิ้ว) กว้างประมาณไม่เกิน 1 ศอก (1 เมตร) มีลมอันประจำในกายอยู่ลึกประมาณ 2 นิ้ว มีเส้นเอ็นเกี่ยวกระหวัดรัดร่างกายอยู่ประมาณ 72,000 เส้น แต่มีเส้นสำคัญที่เป็นประธานอยู่เพียง 10 เส้นเท่านั้น

สรุปเส้นประธานสิบ มีดังนี้

  • เส้นอิทา ตั้งต้นที่กึ่งกลางท้องใต้สะดือ 2 นิ้ว เยื้องไปทางซ้าย 1 นิ้ว สิ้นสุดที่ริมจมูกซ้าย มีลมประจำเรียกว่า ลมจันทรกะลา
  • เส้นปิงคลา ตั้งต้นที่กึ่งกลางท้องใต้สะดือ 2 นิ้ว เยื้องไปทางขวา 1 นิ้ว สิ้นสุดที่ริมจมูกขวา มีลมประจำเรียกว่า ลมสุญทะกะลา
  • เส้นสุมนา ตั้งต้นที่กึ่งกลางท้องเหนือสะดือ 2 นิ้ว สิ้นสุดที่โคนลิ้น มีลมประจำเรียกว่า ลมชิวหาสดมภ์
  • เส้นกาลทารี ตั้งต้นที่กึ่งกลางท้อง แล้วแตกเป็น 4 เส้น สองเส้นบนเหนือสะดือ 1 นิ้ว สิ้นสุดที่นิ้วมือทั้งสิบ ส่วน 2 เส้นล่างใต้สะดือ 1 นิ้ว สิ้นสุดที่นิ้วเท้าทั้งสิบ
  • เส้นสหัสรังสี ตั้งต้นที่กึ่งกลางท้องจากสะดือมาทางซ้ายมือ 3 นิ้ว สิ้นสุดที่ตาซ้าย เรียกว่า เส้นรากตาซ้าย
  • เส้นทวารี ตั้งต้นที่กึ่งกลางท้องจากสะดือมาทางขวามือ 3 นิ้ว สิ้นสุดที่ตาขวา เรียกว่า เส้นรากตาขวา
  • เส้นจันทภูสังหรือลาวุสัง ตั้งต้นที่กึ่งกลางท้องจากสะดือมาทางซ้าย 4 นิ้ว สิ้นสุดที่หูซ้าย เรียกว่า เส้นรากหูซ้าย
  • เส้นรุชำ หรืออุรังกะ ตั้งต้นที่กึ่งกลางท้องจากสะดือมาทางขวามือ 4 นิ้ว สิ้นสุดที่หูขวา เรียกว่า เส้นรากหูขวา
  • เส้นสุขุมัง หรือนันทะกะหวัด ตั้งต้นที่กึ่งกลางท้องใต้สะดือ 3 นิ้ว กดเยื้องซ้ายเล็กน้อย สิ้นสุดที่ทวารหนัก
  • เส้นสิกขิณี หรือคิชฌะ ตั้งต้นที่กึ่งกลางท้องใต้สะดือ 3 นิ้ว กดเยื้องขวาเล็กน้อย สิ้นสุดที่ทวารเบา

ข้อบ่งชี้และข้อห้ามในการบรรเทาอาการและรักษาโรคด้วยการนวดแผนไทย
ข้อบ่งชี้ของอาการที่สามารถทำการนวดได้

  • การบวม (ที่มิได้เกิดจากการอักเสบ) ใช้การคลึงเบา ๆ ไม่กดหรือบีบ เกิดจากการคั่งของเลือดและน้ำ หรือการอุดตันของท่อน้ำเหลือง
  • กล้ามเนื้อลีบ ใช้การกด คลึง กระตุ้นกล้ามเนื้อได้
  • แขน ขาชา ใช้การกด คลึง กระตุ้นกล้ามเนื้อได้
  • มีเสมหะ ใช้การลูบ สับเบา ๆ เพื่อเคาะปอดขับเสมหะ
  • ภาวะที่เกิดแผลเป็นที่ผิวหนัง กล้ามเนื้อ เยื่อหุ้มข้อ ใช้ฝ่ามือนวดหรือปลายนิ้วคลึงเป็นวงกลม
  • ข้อติดเนื่องจากไม่ได้ใช้งาน สามารถนวดเยื่อหุ้มข้อและกล้ามเนื้อ
  • กล้ามเนื้อเกิดอาการเกร็งเป็นตะคริว นวดกดจุดคลายกล้ามเนื้อ
  • กรณีที่มีอาการเจ็บปวด ให้ลูบเบา ๆ ไม่กดหรือบิด
  • ข้อแพลง บวม นวดกดคลึงเบา ๆ
  • ท้องผูก นวดบริเวณท้องและกระเพาะปัสสาวะ เพื่อกระตุ้นการขับถ่าย
  • ปวดศีรษะจากความเครียด สามารถนวดกดจุดรักษาได้
  • ปวดเมื่อย นวดรักษาได้

ข้อห้ามมิให้ทำการนวด

  • บริเวณที่มีบาดแผล จากการติดเชื้อ หรือยังไม่สมานสนิท
  • บริเวณที่เป็นมะเร็ง
  • บริเวณที่มีสีดำ เพราะเนื้อตายจากหลอดเลือดอุดตันหรือเลือดไปเลี้ยงน้อย
  • บริเวณที่มีหลอดเลือดอักเสบ
  • บริเวณที่มีโรคผิวหนัง
  • บริเวณที่มีการอักเสบเป็นหนอง
  • ขณะที่มีไข้
  • บริเวณที่มีกระดูกหัก ข้อเคลื่อน
  • บริเวณที่มีเลือดออก
  • บริเวณที่ถูกไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
  • บริเวณที่เป็นฝี
  • กรณีที่เป็นเบาหวาน ห้ามนวดกดรุนแรง หรือใช้เวลานานเกินไป

ข้อควรพิจารณาในการบรรเทาอาการและรักษาโรคด้วยการนวดแผนไทย
การบรรเทาอาการและรักษาโรคด้วยการนวดแผนไทย ผู้นวดควรมีความรอบรู้ ประกอบด้วย

  • รู้เขา เช่น รู้อาการของผู้ถูกนวด
  • รู้เรา เช่น รู้ว่าตนเองมีความรู้แค่ไหน มีสุขภาพดี มีมารยาท
  • รู้รอบ เช่น รู้จุดอันตรายต่าง ๆ รู้จักจัดห้องนวดให้มีบรรยากาศดี ลมพัดสะดวก กลิ่นสะอาด มีเสียงเพลงเบา ๆ มีแสงสว่างพอควร
  • รู้ประโยชน์สี่สถานของการนวด คือ
    – ด้านการส่งเสริมสุขภาพ เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต คลายการติดข้อที่ขัด ขจัดความเครียดของกล้ามเนื้อ และช่วยการทำงานของเนื้อเยื่อ
    – ด้านการป้องกัน เพื่อป้องกันการปวดศีรษะ การมีเสมหะในหลอดลม ป้องกันการกดจมของแผล ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
    – ด้านการรักษา เพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ การเคลื่อนไหวข้อไม่ติดขัด ขจัดความเจ็บปวด ช่วยลดการบวมน้ำ
    – ด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพ เพื่อความเมื่อยล้า ช่วยนำพาระบบไหลเวียน กล้ามเนื้อเปลี่ยนเป็นดี มีความเริงรื่นของจิตใจ

ข้อควรพิจารณาในการบรรเทาอาการและรักษาโรคด้วยการนวดแผนไทย

  • ท่าทางและการนอนบนที่นอนที่เหมาะสม ไม่นุ่มเกินไป กระจายน้ำหนักได้ดี
  • การวางมือและนิ้วลง วางมือที่สะอาด เล็บที่ตัดสั้นอาจใช้นิ้วบางนิ้ว ฝ่ามือหรือส้นมือลงบนผู้ถูกนวด
  • จุดที่ตรงตำแหน่ง ตำแหน่งนวดที่สำคัญคือกล้ามเนื้อ ร่องระหว่างกล้ามเนื้อ
  • แรงที่ใช้กด นวดจากเบาไปหนัก เจ็บพอทนได้
  • เวลาที่กำหนดเป็นคาบ
  • ควรจะทราบจุดก่อนหลัง
  • ทั้งการนวดซ้ำแต่ละที
  • อีกทั้งมีระยะถี่
  • ต้องนวดที่ละกี่ครั้ง
  • พร้อมทั้งคำแนะนำที่แยบยล
  • มีการติดตามผลที่สัมฤทธิ์
  • อย่างลืมคิดถึงข้อห้ามและข้อควรระวัง
Scroll to top