พระคัมภีร์วิถีกุฏฐโรค การเรียกชื่อโรคตามที่เกิดในที่ต่างกันเกิดในชิ้นเนื้อ เรียก โรคเรื้อน รักษายากนัก แต่พอมีโอกาสหาย หากเกิดในกระดูกเรียก กุฏฐัง เป็นอติสัยโรครักษายากนัก บางตำราว่ารักษาไม่หาย ว่าด้วยสมุฎฐานหรือสาเหตุ แหล่งที่เกิดของโรคมี 7 ประการ
- บังเกิดแต่กองปถวีธาตุ ทำให้เมื่อยในข้อกระดูก ในเส้นเอ็นน้อยใหญ่ ให้ผิวเนื้อสากชา เริ่มขึ้นที่ใบหูก่อน เป็นดุจมดตะนอยต่อย แล้วบวมไปที่หน้า บวมไปทั้งตัวดุจดังหนังแรด นานเข้าทำให้นิ้วมือนิ้วเท้าบวม แล้วแตกเป็นน้ำเหลืองเน่า กุดกินเข้าไป
- บังเกิดแต่กองอาโปธาตุ ด้วยโลหิตและน้ำเหลือง กำเริบ หย่อน พิการ ระคนกัน ให้เสียวไปในชิ้นเนื้อและผิวหนัง บางทีเขม่นในเส้นเอ็นและผิวหนัง หากจะขึ้นที่ใดก็เขม่นที่นั้นก่อน แล้วผุดขึ้นมาดังเม็ดถั่วเม็ดงา ค่อยเจริญขึ้นเท่าใบส้มป่อย ใบมะขาม ใบพุทรา ให้ผิวเนื้อนั้นชา ให้เป็นเหน็บชา ผิวเนื้อนวลดุจน้ำเต้า ทั่วไปจึงเรียก “เรื้อนน้ำเต้า” นานเข้าก็ให้เมื่อยแล้วบวมนิ้วมือนิ้วเท้า บวมทุกข้อกระดูกต่อกัน แล้วเปื่อยลามออกเป็นน้ำเหลืองกินกุดเข้าไปทั้งนิ้วมือนิ้วเท้า และใบหูก็หนาขึ้น ผิวหน้าเหมือนผิวมะกรูด ผิวขาวแต่ไม่แดง รักษายาก
- บังเกิดแต่กองวาโยธาตุ วาโยกำเริบ หย่อน พิการพัด ซ่านเข้าไปตามผิวเนื้อผิวหนัง ทำให้เนื้อแข็งเป็นข้อขอดเป็นเม็ด เท่าผลพุทรา ผลมะกรูด ผลมะนาว ให้หนังเนื้อเป็นเหน็บชา ต่อมาแตกเป็นขุมๆเปื่อยเน่าเหม็น กินจนกระดูกผุด้วน เรียกว่า เรื้อนมะกรูด เป็นอสาทิยโรค
- บังเกิดแต่กองเตโชธาตุ ทำให้เมื่อยทั่วสรรพางค์กาย สะบัดร้อนสะท้านหนาวดุจเป็นไข้ แล้วผุดแดงเป็นเม็ด สัณฐานดุจประดงเพลิง เป็นๆหายๆอยู่ 2-3 ครั้ง แล้วขึ้นจับที่หูก่อน ให้ใบหูหนาและผุดแดงเป็นผื่นดังมดตะนอยกัด แล้วลามขึ้นแก้มและหน้าผากและลามทั่วตัวดุจเพลิง นานเข้าทำให้ตัวพอง ดุจเพลิงไหม้ แล้วจึงกุดลามกระดูกคุด รักษายาก
- เกิดแต่สัมพันธ์ตระกูล คือเกิดแต่กรรมพันธุ์
- เกิดด้วยสามัคคีรส คือเกิดจากผู้ที่กินอยู่หลับนอนด้วย
- บังเกิดเป็นอุปปาติกะ เกิดขึ้นเอง โดยหาสาเหตุไม่ได้ และธาตุต่างๆก็ไมได้วิปริตแปรปรวน
ลักษณะโรคเรื้อนต่างๆ 9 จำพวก
- เรื้อนกวาง เกิดตามข้อมือข้อเท้า และกำด้นต้นคอ ทำให้เป็นน้ำเหลืองลามออกไป ใส่ยาแล้วแห้ง บางทีหายขาด บางทีไม่หาย
- เรื้อนมูลนก ผุดเป็นแว่นวงตามผิวหนัง สีขาวนุงๆ ขอบนูนๆ เล็กบ้างใหญ่บ้าง คล้ายกลาก ทำให้คัน นานเข้าลามทั่วตัว
- เรื้อนวิมาลา ขึ้นที่หูและกำด้นต้นคอ ให้เปื่อยพุพองให้คัน คล้ายมะเร็งไร ยิ่งเกายิ่งคัน ใส่ยาแล้วให้แสบร้อนตามที่เกา
- เรื้อนหูด ผุดเป็นตุ่มๆทั่วตัว เท่าเม็ดพริกไทย ผลถั่วดำ ตะขบไทย มะนาว มะกรูด เต็มทั่วตัว มีอาการเมื่อยมึนไปทั้งตัว เป็นพยาธิกามโรค รักษาไม่หาย อยู่จนสิ้นอายุขัย เวลานั้นพยาธิก็แตกออกทุกยอด เปื่อยเน่าเหม็น
- เรื้อนเกล็ดปลา เกิดที่หน้าก่อน แล้วลามถึงต้นคอลงมาถึงทรวงอก ลามเป็นเกล็ดทั่วตัว สัณฐานผิวดำ
- เรื้อนบอน ผุดเป็นรูปรุ มองเห็นไม่ชัด เห็นเพียงเป็นขาวๆแดงๆ ในเนื้อรำไร
- เรื้อนหิด ขึ้นทั่วตัว แล้วลามไป ดุจคนเป็นกลาก
- เรื้อนดอกหมาก ผุดขึ้นเป็นขาวๆคล้ายดอกหมาก เมื่อเหงื่อออกจะทำให้คัน เกาจนน้ำเหลืองซึม จึงหายคัน
- เรื้อนมะไฟ ขึ้นเป็นเกล็ดแดง ขอบขาว ใหญ่เท่าผลมะไฟ ทำให้ร้อนดุจถูกไฟ ให้พองขึ้นมา
ยาสำหรับรักษาโรคผิวหนัง
- ยาชำระน้ำเหลือง
ส่วนประกอบ ขี้เหล็กทั้ง 5 จตุผลาธิกะ ใบมะกา หัวแห้วหมู รากตองแตก บอระเพ็ด ขมิ้นอ้อย โกฐน้ำเต้า สิ่งละ 5 บาท ยาดำ 1 บาท เถาวัลย์เปรียงสด เทียนทั้ง 5 สิ่งละ 2 สลึง ฝักราชพฤกษ์ 5 ฝัก
วิธีทำ ต้ม 3 เอา 1 แทรกดีเกลือตามธาตุหนักเบา
สรรพคุณ ชำระน้ำเหลืองเสีย
ขนาดรับประทาน ครั้งละ 1 – 2 ช้อนโต๊ะ วันละ 2 เวลา เช้า-เย็น - ยาแก้พยาธิเกิดตามผิวหนัง
ส่วนประกอบ รากทองพันชั่ง กระเทียม ลูกสะบ้าเลือด เม็ดลำโพง เม็ดกระเบียน เม็ดกระเบา พริกไทยล่อน คางคกตายซากเผา
วิธีทำ บดผง ละลายน้ำมันยาง หรือน้ำมันงา น้ำมันมะพร้าว
สรรพคุณ แก้พยาธิตามผิวหนัง
วิธีใช้ ใช้ทา - ยาแก้เม็ดผื่นคัน
ส่วนประกอบ ใบสำมะงา 8 ส่วน ใบเหงือกปลาหมอ 1 ส่วน
วิธีทำ ต้มเข้าด้วยกัน ใส่ถังแช่ไว้นานๆ
สรรพคุณ แก้คัน
วิธีใช้ ใช้อาบ 3 วัน