ขนานที่ ๑
ท่านให้เอา น้ำปัสสาวะ (ที่ไม่มีเชื้อโรค) นำมาใช้อมเวลาตื่นนอนเช้า ทุกวันๆละครั้ง เพียง ๓ ครั้งเท่านั้น มีสรรพคุณทำให้ฟันคงทนไปได้จนตลอดชีวิตแลฯ
พระครูเมธีสาครเขต วัดตึกมหาชยาราม สมุทรสาคร
ขนานที่ ๒ท่านให้เอา ยางต้นสั่นทม กับ ดีจระเข้ ตัวยาทั้ง ๒ อย่างนี้ เอาอย่างละพอสมควร นำมาผสมกวนให้เข้ากันดีแล้ว ใช้สำลีพันปลายไม้ชุบน้ำยาจิ้มที่โคนฟันให้ครบทุกซี่ สัก ๒-๓ ครั้ง ในวันหนึ่ง ก่อนจิ้มยานี้ ต้องอมน้ำเกลือทะเล (เกลือใส่แกง) ชำระล้างปากให้สะอาดเสียก่อน มีสรรพคุณช่วยรักษาฟันให้คงทน ไม่หัก ไม่โยกคลอน ไม่ถอนหลุด ไปจรตลอดชีวิต เคยใช้รักษาได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ
คุณสอิ้ง นิ่มสมบูรณ์ กรุงเทพมหานคร
ขนานที่ ๓ท่านให้เอา เปลือกต้นยาง ๑ เปลือกต้นข่อย ๑ เปลือกต้นสมอทะเล ๑ ตัวยาทั้ง ๓ อย่างนี้เอาอย่างละเท่าๆกัน เกลือทะเล ๑ กำมือ ตัวยาทั้ง ๔ อย่างนี้นำมาใส่หม้อดินต้มกับน้ำ ๓ ส่วน ต้มเคี่ยวให้เหลือน้ำ ๑ ส่วน ใช้น้ำยาอมเวลาเช้าสัก ๒-๓ วัน มีสรรพคุณช่วยทำให้ฟันคงทนไปจนตลอดชีวิตแลฯ
พระบุญเลิศ จนฺทสโร วัดบ้านลาด อ.หนองแค สระบุรี
ขนานที่ ๔ท่านให้เอา ลูกพิกุลสุก ๓๐ ลูก กับเกลือทะเล (เกลือใส่แกง) มากพอสมควร ตัวยาทั้ง ๒ อย่างนี้ นำมาใส่หม้อดินต้มกับน้ำพอสมควร ประมาณให้มีรสเค็มจัดๆ ใช้น้ำยาอมเวลาเช้าประมาณ ๕ นาที ทุกวัน ประมาณ ๑๕ วัน มีสรรพคุณจะทำให้ฟันไม่ผุ ไม่โยกคลอน ทำให้ฟันคงทนไปตลอดชีวิต ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ
วิทยาทานสงวนนาม