ขนานที่ ๑
ท่านให้เอา ยางสน (ชนิดที่ใช้ติดซอ) จำนวนมากน้อยตามต้องการ นำมาบดให้ละเอียด ผสมกับ พิมเสน (พอสมควร) กวนให้เข้ากันดีแล้วใช้พอกบริเวณที่เป็นแผลกลาย ปิดด้วยผ้าพันแผลให้สนิท เมื่อพอกยาไว้ครบ ๒๔ ชั่วโมงแล้ว ให้เปลี่ยนยาพอกใหม่ เพียง ๓ วันเท่านั้น แผลกลายจะหายขาดแลฯ
ก่อนพอกยาทุกครั้ง ต้องชำระแผลให้สะอาด และซับน้ำให้แผลแห้งเสียก่อน ยาขนานนี้ใช้พอกรักษาแผลที่เกิดจากโรคเบาหวานได้ผลดีอย่างชะงัดนักแล เจ้าของยานี้ได้ใช้รักษาตัวเองหายขาดมาแล้วฯ
นายสละ แสงวิภาต อ.บ้านแพ้ว สมุทรสาคร
ขนานที่ ๒ท่านให้เอา ต้นน้ำค้างหมากดิบ กับ ดินสอพอง ตัวยาทั้ง ๒ อย่างนี้ เอาอย่างละพอสมควร นำมาตำให้ละเอียด ใช้พอกบริเวณที่เป็นแผลกลาย มีสรรพคุณรักษาแผลกลายได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ
พระครูอ่วม วัดทองกลาง อ.โพธิ์ทอง อ่างทอง
ขนานที่ ๓ท่านให้เอา ใบเสลดพังพอน ๑ กำมือ ใบต้นเหนียว ๑ กำมือ ตัวยาทั้ง ๒ อย่างนี้ นำมาล้างน้ำให้สะอาด ตำให้แหลก ผสมกับสุรา ใช้พอกบริเวณที่เป็นแผลกลาย ปรุงยานี้พอกวันละครั้ง ประมาณ ๗ วัน มีสรรพคุณรักษาโรคแผลกลาย หรือ โรคแผลที่ริมปากแผลหนาขึ้นผิดธรรมดา ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ
วิทยาทานสงวนนาม วัดดอกมะเกลือ อ.อู่ทอง สุพรรณบุรี
ขนานที่ ๔ท่านให้เอา ข้าวสุก ๕ ก้อน (เผาไฟให้ไหม้) สีเสียด ๑ ก้อน ถ่านไม้กะบูน ๑ ก้อน ขมิ้นอ้อน ๕ แว่น (ลงด้วยพระเจ้า ๕ พระองค์ คือ นะ โม พุท ธา ยะ) ตัวยาทั้ง ๔ อย่างนี้ นำมาตำเป็นผง ใช้พอกบริเวณที่เป็นแผลกลาย มีสรรพคุณรักษาแผลกลายได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ
พระแสวง จานปญฺโญ วัดลาวทอง อ.เมือง สุพรรณบุรี
ขนานที่ ๕ท่านให้เอา ใบต้นยอ จำนวนมากพอสมควร นำมาลวกน้ำร้อนเสียก่อน ตำให้แหลก ใช้พอกบริเวณที่เป็นแผลกลาย พอกวันละครั้ง ประมาณ ๗ วัน แผลกลายจะหายไป มีสรรพคุณชะงัดนักแล เคยใช้รักษาหายมามากแล้วฯ
พระครูโกมุทสมานคุณ วัดราษฎร์สามัคคี อ.บางเลน นครปฐม
ขนานที่ ๖
ท่านให้เอา ปูนแดง (ปูนแดงกินกับหมากที่ไม่ใส่สีเสียด) จำนวนมากพอสมควร นำมาละลายกับน้ำฝน แล้วทิ้งไว้ให้ปูนแดงนอนก้น ใช้ปุยนุ่น หรือ สำลี ก็ได้ ชุบน้ำปูนใสนั้นให้ชุ่ม ใช้พอกบริเวณที่เป็นแผลกลายนั้น เมื่อน้ำยาแห้งแล้ว ให้เปลี่ยนยาพอกใหม่ ประมาณวันละ ๓-๔ ครั้ง ทุกวันติดต่อกัน ประมาณ ๑๐ วัน แผลกลายนั้นจะหายไปฯ
ก่อนพอกยานี้ ต้องใช้น้ำด่างทับทิมชำระล้างแผลให้สะอาดเสียก่อนฯ
มีสรรพคุณชะงัดนักแล เคยใช้รักษาหายมามากรายแล้วฯ
พระอรรณพ อริยกุโล วัดสระเกศ กรุงเทพมหานคร
ขนานที่ ๗ท่านให้เอา กะลามะพร้าว (ที่ขูดเนื้อออกหมดแล้ว) นำมาขูดให้เป็นผงละเอียด ผสมกับ พิมเสน ตัวยาทั้ง ๒ อย่างนี้เอาอย่างละพอสมควรบดให้ละเอียด ใช้โรยบริเวณที่เป็นแผลกลาย มีสรรพคุณรักษาแผลกลายได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ
พระครูพิบูลวิหารการ วัดทางกลาง อ.บางปะหัน อยุธยา
ขนานที่ ๘ท่านให้เอา ใบเถาวัลย์เขียว (อ่อนๆ) ๔-๕ ใบ นำมาล้างน้ำให้สะอาด ใส่ปากเคี้ยวให้ละเอียด ใช้พอกบริเวณที่เป็นแผลกลาย เมื่อยาแห้งแล้วก็เปลี่ยนยาพอกใหม่ แผลกลายจะหายไปภายใน ๗ วัน มีสรรพคุณชะงัดนักแลฯ
พระจรัญ ปญฺญาสาโร วัดบ้านช้าง อ.พนัสนิคม ชลบุรี
ขนานที่ ๙ท่านให้เอา ใบเสลดพังพอน จำนวนมากน้อยตามต้องการ นำมาตำให้ละเอียด ผสมกับ สุรา ใช้พอกบริเวณที่เป็นแผลกลาย มีสรรพคุณรักษาแผลกลาย และรักษาโรคคัน ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ
พระครูอ่วม วัดทองกลาง อ.โพธิ์ทอง อ่างทอง
ขนานที่ ๑๐ท่านให้เอา กำมะถัน ๑ ก้อน (ขนาดเท่านิ้วองคุลี) ใบพลู (พลูกินกับหมาก) ๗ ใบ พิมเสน ๑ หยิบมือ ยาฉุน ๑ ก้อน (พอสมควร) ขี้วัว (คั่วไฟให้ไหม้) ๑ ก้อน ตัวยาทั้ง ๕ อย่างนี้ นำมาตำให้ละเอียด ผสมกับ น้ำกะทิมะพร้าวสด ๑ กระป๋องนมข้น กวนให้เข้ากันดีแล้ว ใช้ทาบริเวณที่เป็นแผลกลาย หรือ บริเวณที่เป็นโรคคันทุกชนิด รวมถึงเป็นโรคสังคังด้วย มีสรรพคุณรักษาแผลกลาย โรคคันทุกชนิดให้หายไป ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแล เคยใช้รักษาได้ผลดีมามากแล้วฯ
พระปลัดล้อมชัย ชยธมฺโม วัดไผ่รื่นรมย์ อ.กำแพงแสน นครปฐม