ขนานที่ ๑ท่านให้เอา ไพล ๑ ใบเสนียด ๑ เมล็ดราชดัด ๑ ตัวยาทั้ง ๓ อย่างนี้เอาหนักอย่างละ ๑ บาทเท่ากัน นำมาใส่หม้อดินต้มกับน้ำพอสมควร ใช้นำยารับประทานครั้งละ ๑ ถ้วยชา เวลาเช้า – เย็น วันละ ๒ เวลา มีสรรพคุณแก้โรคประดง ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ
พระครูเขมวิริยกิจ วัดสามัคคีธรรม อ.บางปลาม้า สุพรรณบุรี
ขนานที่ ๒ท่านให้เอา รากตาล ๑ งวงตาล ๑ เปลือกต้นสำโรง ๑ ตัวยาทั้ง ๓ อย่างนี้เอาอย่างละเท่าๆกัน นำมาใส่หม้อดินต้มกับน้ำพอสมควร ใช้น้ำยารับประทานด้วย ใช้อาบด้วย มีสรรพคุณแก้โรคประดง ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ
วิทยาทานสงวนนาม
ขนานที่ ๓ท่านให้เอา รากต้นขี้เหล็ก ๑ รากต้นพงดอ ๑ รากต้นฟักข้าว ๑ ดินสอพอง ๑ ตัวยาทั้ง ๔ อย่างนี้ นำมาฝนกับฝาละมีหม้อดิน มีน้ำซาวข้าวเป็นน้ำกระสายยา ใช้ทาบริเวณที่เป็นเม็ดผื่นคัน มีสรรพคุณแก้โรคประดง ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ
วิทยาทานสงวนนาม
ขนานที่ ๔ท่านให้เอา ไพล ๑ รากต้นหญ้านาง ๑ จันทร์หอม ๑ ตัวยาทั้ง ๓ อย่างนี้เอาอย่างละเท่าๆกัน นำมาตำให้ละเอียด ผสมกับ น้ำซาวข้าว ใช้ทาบริเวณที่เป็นเม็ดผื่นคัน มีสรรพคุณแก้โรคประดง ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ
วิทยาทานสงวนนาม
ขนานที่ ๕ท่านให้เอา หัวขิง หนัก ๔ บาท หัวดองดึง หนัก ๔ บาท ดอกอัญชันขาว หนัก ๔ บาท รากเจตมูลเพลิงดอกแดง หนัก ๔ บาท เมล็ดสลอด หนัก ๑ บาท ตัวยาทั้ง ๕ อย่างนี้ นำมาใส่หม้อดินต้มกับน้ำพอสมควร ใช้น้ำยารับประทานครั้งละ ๑ ถ้วยชา เวลาเช้า – เย็น วันละ ๒ เวลา ประมาณ ๗ วัน โรคประดงจะหายไป มีสรรพคุณชะงัดนักแลฯ
พระครูนนทปัญญาวิมล วัดชะลอ อ.บางกรวย นนทบุรี